ภาพบรรยากาศของร้าน Hair House RCA
ร้านนี้น่าจะประมาณ 35 ตารางเมตร ภายในร้านจะบริการแบบครบวงจร มีทั้งทำเล็บ สปามือเท้า ทำผม (แต่ที่ถ่ายมาจะเป็นแค่ในส่วนของการทำเล็บ ซึ่งอยู่ชั้นบนของร้าน)
1. ทำเล สถานที่ตั้ง
เราต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
เช่น เราต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นวันรุ่น คนทำงาน ก็หาสถานที่ร้านให้อยู่ในบริเวณตลาดหรือใกล้สถานที่ทำงาน และสถานที่ร้านต้องเอื้ออำนวย เช่น การเดินทางสะดวก มีที่จอดรถ
2. ขนาดของร้าน
ขนาดเล็ก : พื้นที่ประมาณ
2-8 ตารางเมตร ส่วนมากร้านจะให้บริการเพ้นท์เล็บหรือต่อเล็บ ซึ่งจะใช้โต๊ะทำเล็บประมาณ 2
โต๊ะ
ขนาดกลาง : พื้นที่มีตั้งแต่ 12- 45
ตารางเมตร ให้บริการแบบครบวงจร ได้แก่ การต่อเล็บ เพ้นท์เล็บ สปามือเท้า และอื่นๆ ซึ่งจะมีโต๊ะสำหรับทำเล็บตั้งแต่
2โต๊ะขึ้นไปและมีเก้าอี้สปา 2 ตัว ขึ้นไป
ขนาดใหญ่ : มีพื้นที่ 45 ตารางเมตร ขึ้นไป
ให้บริการเกี่ยวกับการเสริมสวยครบวงจร เช่น การต่อเล็บ เพ้นท์เล็บ สปามือเท้า และอาจจะมีบริการเสริมอื่นๆอีก เช่น
ทำผม นวดตัวนวดหน้า ฯลฯ
3. จำนวนเงินลงทุน
ทั่วไปในการตกแต่งร้าน จะใช้งบประมาณ 18,000-20,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
สำหรับวงเงินในการตกแต่งร้านขนาดกลาง ไม่หรูหรา
ค่าตกแต่งร้านขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุ ถ้าเลือกใช้วัสดุที่มีราคาแพงจะทำให้ต้นทุนในการตกแต่งราคาสูง หากเลือกวัสดุราคาไม่แพงจะทำให้ต้นทุนถูกลง
ค่าอุปกรณ์การทำเล็บ
- โต๊ะทำเล็บ 1ตัว
ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บ ได้แก่ กรรไกร พู่กัน เครื่องอบ ตะไบ ฯลฯ
ราคาประมาณ 15,000-30,000 บาท
-
วัสดุที่ใช้แล้วหมดไป เช่น สีทาเล็บ ผงอะคริลิค น้ำยาทาเล็บ สำลี ฟรอยด์ ฯลฯ
ราคาโดยประมาณ 8,000-15,000 บาท
- เก้าอี้
Spa จะประกอบด้วยอุปกรณ์ทำเล็บต่างๆ ราคามีตั้งแต่ 80,000 – 300,000 บาท
4. การตั้งราคาบริการ
ควรพิจารณาจาก
ทำเลที่ตั้งของร้าน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และผลิตภัณฑ์ที่นำมาให้บริการ เช่น ตลาดราคาก็จะไม่แพงมากตามสถานที่หรือกลุ่มลูกค้า แต่ถ้าเป็นในย่านชิดลม คนเยอะ ราคาก็จะสูงตามสถานที่
5. ค่าจ้างพนักงาน
จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ทำมา ทักษะและความสามารถในการทำงาน ถ้าประสบการณ์ยิ่งมากเงินเดือนก็จะเยอะตาม
การสัมภาษณ์เจ้าของร้านย่านตลาดนัดกลางคืนห้วยขวาง
การสัมภาษณ์ช่างทำเล็บ ร้านHair House RCA
สัมภาษณ์ by By Patch is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Unported License.